
Radiesse คืนความอ่อนเยาว์ ยกกระชับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
Radiesse คืออะไร?
Radiesse เป็นนวัตกรรมสารเติมเต็มซึ่งมีแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์ หรือ ‘คาห้า’ (CaHA: Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งเป็น สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ให้ผลลัพธ์ในการเติมวอลุ่มให้ผิวแบบเห็นผลทันที และลดเลือนริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ในระยะยาว จึงเหมาะในการแก้ปัญหาริ้วรอย และร่องลึกบนใบหน้าที่เป็นค่อนข้างมาก เช่นร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รวมไปถึงบริเวณหลังมือด้วย
คุณสมบัติเด่นของ Radiesse
- Strong Structural Skin : เสริมความแข็งแรงถึงชุดโครงสร้างรอบเซลล์ผิว พร้อมเติมเต็มส่วนแก้มให้ฟูเป็นธรรมชาติ
- Profound Rejuvenation : ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนในเนื้อเยื่อผิวหนังให้ยืดหยุ่นและกระชับ
- Cell Regenerative Stimulation : กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ใต้ผิวให้เต็มฟูกระจ่างใสและมีสุขภาพดี
Radiesse และ Radiesse(+) ฟื้นสภาพผิวแบบ DUO
Radiesse®
ช่วยในด้านฟื้นฟูริ้วรอยร่องแก้มและรอยพับบนใบหน้าระดับปานกลางถึงรุนแรง ทั้งยังช่วยลดปัญหาการสูญเสียไขมันบนใบหน้ากรณีที่ผู้ที่มีสภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV Lipoatrophy) นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวมือที่แห้งเหี่ยวให้เต็มตึงมีวอลุ่มได้
Radiesse® (+)
เก็บงานริ้วรอยบนส่วนเนื้อเยื่ออ่อนบนผิวหนังและใบหน้าได้ละเอียด พร้อมส่วนผสมอย่างลิโดเคน (Lidocaine) ซึ่งช่วยระงับอาการปวดขณะฉีด ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาได้รับความสะดวกสบายตลอดระยะเวลาการทำหัตถการ
Radiesse เหมาะกับใคร
- ท่านที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
- ท่านที่ใบหน้าเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น สุขภาพผิวไม่ดี ขาดการบำรุง สภาพผิวแย่กว่าอายุที่ควรจะเป็น
- ท่านที่ใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ท่านที่ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ
- ท่านที่ใบหน้าขาดวอลุ่ม เช่น ใต้ตาโหลลึก ขมับตอบ
- มีร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นรอบปาก
Radiesse ออกฤทธิ์อย่างไร?
เมื่อฉีด Radiesse ที่มีส่วนประกอบเป็น CaHA เข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง จะไปช่วยเติมเต็มวอลุ่ม ลดร่องลึกต่าง ๆ ได้ทันที และสาร CaHA จะเริ่มทำงาน กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นเซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนให้ทำงาน เกิดเป็นการสร้างโครงเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในช่วง 3-4 สัปดาห์ ไปจนถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น ทดแทนตัวเจลฟิลเลอร์ที่จะค่อย ๆ สลายไปก่อน ทำให้ริ้วรอย ความกระชับ และร่องลึกต่าง ๆ ดีขึ้นได้ในระยะยาว
ใครบ้างไม่เหมาะกับการฉีด Radiesse
- หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
- มีประวัติการแพ้รุนแรง, Anaphylaxis
- ท่านที่เคยแพ้ Radiesse
ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด Radiesse
- กระชับผิวทั่วหน้า : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิวทั่วหน้า ทำให้ผิวแน่น กระชับรูขุมขน เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ร่องแก้ม : เส้นข้างแก้ม อาจเป็นร่องลึกขึ้นตามอายุ ถ้ามีร่องเฉพาะเวลายิ้มจะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าร่องเห็นเป็นรอยชัดในหน้าตรง ก็สามารถเติมเพื่อทำให้หน้าดูเด็กลง และทำให้ร่องตื้นขึ้นได้
- ร่องน้ำหมาก : เส้นที่ลากจากมุมปากลงมาถึงบริเวณคาง ถ้ามีจะทำให้ดูมีอายุ และถ้าเชื่อมไปกับร่องแก้มก็จะยิ่งเป็นปัญหาทำให้ดูอายุมากเป็นพิเศษ
- หน้าแก้ม : บริเวณนี้มักขาดวอลุ่ม เมื่ออายุมากขึ้น การเติมเต็มบริเวณนี้จะช่วยยกกระชับ หน้าเด็กลง และทำให้ผิวดีขึ้นอีกด้วย
- กรอบหน้า : ช่วยทำให้กรอบหน้าคมชัดยิ่งขึ้น ช่วยให้หน้ากระชับขึ้น
- รอบริมฝีปาก : รอยย่นรอบริมฝีปาก จากการยิ้ม สามารถใช้ radiesse เติมเต็มได้
- ขมับ : Radiesse สามารถแก้ปัญหาขมับตอบ ที่ทำให้ดูมีอายุ
- หลังมือ : มือเป็นอีกตำแหน่งที่ทำให้ดูมีอายุ จากการสูญเสียไขมัน ทำให้เห็นเส้นเอ็นและเส้นเลือดชัดเจน
บริเวณที่ไม่แนะนำให้ฉีด คือ ริมฝีปาก เพราะจะทำให้เกิดเป็นตุ่มจากการกระตุ้นของ CaHA ได้ หากต้องการเติมริมฝีปาก แนะนำให้เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่มี biostimulator มากกว่า
ฉีด Radiesse เห็นผลเมื่อไหร่และอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฉีด Radiesse จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
- ผลลัพธ์ทันที : หลังฉีดจะมีฤทธิ์การยกของผิว เกิดความกระชับ ร่องลึกต่าง ๆ ที่ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง
- ผลลัพธ์ระยะยาว : หลังจากการฉีด 3-4 สัปดาห์ CaHA ใน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณภาพผิวบริเวณที่ฉีดดีขึ้น กระชับขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น และวอลุ่มบริเวณนั้นก็จะดีขึ้นเช่นกัน
การคงสภาพของผลลัพธ์แปรผันตามอายุ ประเภทผิว ไลฟ์สไตล์ เมตาบอลิซึมในร่างกาย และบริเวณที่ได้รับการรักษา โดยทั่วไปจะสามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้นาน 1 ปี ซึ่งนานกว่าสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ที่เคยใช้กันมา ทั้งยังสามารถปรับแก้ได้ง่าย เพียงใช้ hyaluronidase สลาย
การดูแลตัวเองก่อน – หลัง ทำ Radiesse
ก่อนทำ
- ควรงดการรับประทานยาที่ก่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด จำพวกยากลุ่ม NSAIDs หรือแอสไพริน หรืออาหารเสริมจำพวกกิงโกะ
- ควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบโดยละเอียดว่ามีอาการแพ้อะไรหรือไม่
- ควรงดสคลับผิว หรือใช้ยารวมทั้งครีมผลัดเซลล์ผิว เพื่อป้องกันการเกิดการอักเสบ
หลังทำ
- ควรลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือต้องออกแรงมากๆ
- ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดหรือการโดนความร้อนเป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงหลังการรักษา
- หลังทำการฉีด Radiesse จะมีรอยแดงหรืออาการบวม ไม่ควรออกแรงหรือโดนความร้อนในบริเวณนั้นจนกว่ารอยแดงและอาการบวมดังกล่าวจะหายไป
การทำ Radiesse ควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผิวหนังชำนาญการด้านการใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับการรักษาควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามแต่บุคคล และในตอนนี้ Radiesse ได้เข้าคลินิก นภัสรีย์ แล้ว ซึ่งเป็นคลินิก 1 ใน 10 คลินิกแรกของเมืองไทย ที่ให้บริการตัวช่วยผิวขั้นสุด สร้างผิวใหม่ คอลลาเจนแน่นกว่าเดิม ท่านสามารถให้ นภัสรีย์ คลินิก ให้คำปรึกษา ดูแล โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด