ร้อยไหม ยกกระชับ อันดับ 1

การร้อยไหม คืออะไร?

การร้อยไหม คืออะไร? ร้อยไหม ภาษาอังกฤษ คือ Thread Lifting เป็นหนึ่งในเทคนิคการยกกระชับผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเป็นการใช้เส้นไหมชนิดพิเศษที่มีเงี่ยงเล็กๆ ทำมาจากวัสดุสามารถละลายได้และปลอดภัยต่อร่างกาย สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อดึงให้ผิวบริเวณนั้นยกขึ้นและกระชับตัว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอยลดลง และรูปหน้าดูเรียวสวยขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดใหญ่

วิธีการร้อยไหม

การที่เราจะพิจารณาว่าคลินิกร้อยไหมที่ไหนดี อันดับแรกเราต้องศึกษาวิธีการก่อน เพราะความชำนาญของแพทย์และวิธีการส่งผลต่อผลลัพธ์ที่เราจะได้หลังการทำหัตถการเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วจะมีวิธีการดังนี้ 

1. ปรึกษาแพทย์ ก่อนทำการร้อยไหม ผู้รับบริการควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกชนิดของเส้นไหมที่เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2. ทำความสะอาดผิว บริเวณที่จะทำการร้อยไหมจะถูกทำความสะอาดอย่างละเอียด
3. ทายาชา แพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการร้อยไหม เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
4. ร้อยไหม แพทย์จะใช้เข็มนำเส้นไหมสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังตามแนวที่วางแผนไว้
5. ประคบเย็น หลังจากร้อยไหมเสร็จสิ้น แพทย์จะประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
6. ดูแลหลังการร้อยไหม ผู้รับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สำหรับเรื่องการ ร้อยไหม เมื่อเวลาผ่านไปคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอาจเสื่อสภาพลง ผลที่ตามมาก็คือ เริ่มเกิดริ้วรอยตามบริเวณใบหน้า ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เฟิร์มกระชับ ทำให้ใบหน้าดูเสื่อมโทรมแลดูมีอายุมากขึ้น โดยปัจจุบันมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ และหนึ่งในนวัตกรรมที่นิยมมากที่สุดก็คือ  การร้อยไหมยกกระชับ นั่นเอง เนื่องจากใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และที่สำคัญเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ โดยนภัสรีย์ คลินิก ก็โดดเด่นเรื่องการร้อยไหมไม่แพ้หัตถการด้านอื่นๆ มั่นใจได้ด้วยแพทย์มากประสบการณ์และมีความชำนาญด้านการร้อยไหมโดยเฉพาะ ด้วยเทคนิคพิเศษที่ไม่เหมือนใคร (MULTILAYER TECHNIQUE) ซึ่งเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนทุกชั้นผิว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเทคนิคปกติ

การร้อยไหม เป็นหัตถการที่เน้นในเรื่องของการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ โดยสามารถแก้ไขความหย่อนคล้อยของผิวได้หลากหลายตำแหน่ง และยังแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้นอกจากความหย่อนคล้อย ได้แก่

• ร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ กรอบหน้าดูชัดเจน ใบหน้าเรียวได้สัดส่วน
• ร้อยไหมยกบริเวณหางตา แก้ปัญหาหนังตาตก ยกหางคิ้ว หางตาดูเฉี่ยวขึ้น
• ร้อยไหมจมูก ช่วยปรับสันจมูกให้ดูโด่งขึ้น ลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลง เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีสันจมูก และ ยังไม่อยากทำศัลยกรรมเสริมจมูก
• ร้อยไหมร่องแก้ม ช่วยยกกระชับผิวช่วงบริเวณหน้าแก้มที่หย่อนเกิดเป็นรอยพับร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูดีดูตื้นขึ้น
• ร้อยไหมยกมุมปาก ยกกระชับกระเปาะไขมันช่วงบริเวณมุมปากให้แลดูกระชับ ร่องน้ำหมากดูดีขึ้น
• ร้อยไหมบริเวณเหนียง แก้ปัญหาเหนียงที่หย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้น เห็นแนวกระดูกกรามชัดขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์
• ร้อยไหมคอลลาเจน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณชั้นผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย ผิวดูสุขภาพดี

หลายคนเกิดคำถามว่า ร้อยไหมอยู่ถาวรไหม โดยการ ร้อยไหม ราคาค่อนข้างสูง แล้วไหมที่ร้อยบนใบหน้าของเราจะอยู่ถาวรตลอดไปหรือไม่ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการทำหัตถการประเภทนี้ไม่ใช่การเอาไหมเข้าไปร้อยในกล้ามเนื้อบนใบหน้าแล้วให้มันยกใบหน้าของเราตลอดไป แต่เป็นการใช้ไหมละลายยกกระชับกล้ามเนื้อ จากนั้นร่างกายก็จะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาพันรอบตัวไหมให้เกิดความตึง เมื่อถึงเวลาไหมก็จะละลายไป ทำให้ในร่างกายของเราไม่มีสิ่งแปลกปลอม แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะยังคงเต่งตึงอยู่เหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ ให้หัตถการดังกล่าวจะไม่ได้อยู่ถาวร แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานไม่น้อยเลยทีเดียว

ผู้ที่สนใจอยากทำหัตถการ ถึงขั้นค้นหาแล้วว่า ร้อยไหมที่ไหนดี pantip แต่กังวลว่าทำไปแล้วหน้าจะตึงไปอีกกี่วันกว่าจะสามารถกลับมาขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ตามปกติ ขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะโดยทั่วไปแล้วหัตถการดังกล่าวจะตึงใบหน้าหนักๆ ประมาณ 3 วันแรก หลังจากครบ 1 สัปดาห์ก็จะสามารถกลับมาขยับใบหน้าได้ตามปกติ และจะสวยเข้าที่ภายใน 2 ถึง 4 สัปดาห์เท่านั้น

ไม่จำเป็นต้องมองหา คลินิกร้อยไหม ใกล้ ฉัน เพราะการทำหัตถการประเภทนี้ไม่ต้องพักฟื้นเลย เมื่อทำเสร็จแล้วผู้รับบริการสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย หลังจากนั้นก็ดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีก็พอ เนื่องจากเป็นการทำหัตถการขนาดเล็กที่ไม่ได้เปิดแผล ความเจ็บปวดอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ ในช่วงแรกอาจรู้สึกตึงกล้ามเนื้อบนใบหน้าบ้าง แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 3 วันถึง 1 สัปดาห์ เราก็จะสามารถกลับมาใช้กล้ามเนื้อบนหน้าได้ตามปกติเหมือนเดิม

นอกจากจะมีร้อยไหมเหมาะกับใคร ยังมีหัตถการประเภทนี้ไม่เหมาะกับใครเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนสามารถทำได้ เนื่องจากยังคงมีข้อควรระวังและข้อจำกัดอยู่เช่นกัน โดยคนที่ไม่ควรทำประกอบไปด้วย

1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากการทำหัตถการอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
2. ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ การเสริมความงามในขณะที่ผิวหนังมีปัญหา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และส่งผลให้แผลหายช้า
3. ผู้ที่แพ้ยาชาหรือวัสดุที่ใช้ ก่อนทำหัตถการ แพทย์จะทำการตรวจสอบประวัติการแพ้ของผู้ป่วยอย่างละเอียด หากมีประวัติแพ้ยาชาหรือวัสดุที่ใช้ร้อยไหม ควรหลีกเลี่ยงการทำ
4. ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร การหัตถการความงามใดๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร อาจส่งผลกระทบต่อทารกได้

การร้อยไหมถือเป็นการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยหรือมีปัญหามากๆ เพราะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที ซึ่งจริงๆแล้วสามารถทำร่วมกับโปรแกรมยกกระชับอื่นๆได้ จะสามารถช่วยทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ในบางหัตถการก็อาจจะต้องมีระยะเวลาของมัน ถึงจะสามารถทำหัตถการอื่นๆได้ อาทิเช่น การทำเลเซอร์ยกกระชับที่ให้พลังงานความร้อนอาจต้องทำหลังจากการ้อยไหมไปแล้ว 1-2 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดไหมละลาย แต่หากเป็นการฉีดฟิลเลอร์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ในการลิฟต์หน้า หลังจากหายบวมจากการร้อยไหมแล้วก็สามารถทำได้เลย (หลังร้อยไหมหน้าจะบวมประมาณ 7-14 วัน)