- HOME
- เกี่ยวกับอาจารย์หมอส้ม
- SERVICE
- Newdoublo2.0
- Belotero Revive
- Filler ฟิลเลอร์
- ร้อยไหมจมูก ดั้งโด่งไม่ต้องพักฟื้น
- ร้อยไหมยกกระชับ
- CoolSculpting กำจัดไขมันเฉพาะจุด
- CoolSculpting / English
- Thermalift
- Sculptra
- Radiesse
- RADIESSE PLUS
- Ulthera ยกกระชับ
- PicoSure
- Rejuran
- Deep facial cleanser program
- HIFU
- Smaxel หลุมสิว รูขุมขน
- วิตามินผิว IV Therapy Program
- PROMOTIONS
- REVIEWS
- CELEBRITY RECOMMEND
- BEAUTY CLIPS
- CONTACT
กู้ผิวสวยช่วยผิวใส Radiesse คืออะไร ราคาเท่าไร ใครบ้างที่ควรทำ
เทรนด์ผิวสุขภาพดีในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าให้ปัง แต่ยังรวมถึงการดูแลแบบล้ำลึก กู้ผิวใสให้กลับคืนมา รวมถึงดูแลสภาพผิวให้แข็งแรง Radiesse จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความงามที่ช่วยให้ผิวมีคุณภาพที่ดีจากภายในได้อย่างดี ตอบโจทย์เทรนด์งานผิวปั๊วะปังที่ทุกคนใฝ่ฝันนั่นคือ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ แต่ผิวหน้ายังคงสภาพผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักว่า Radiesse ช่วยบำรุงผิวหน้าในเรื่องอะไรบ้าง หรือไม่มั่นใจว่าตนเองเหมาะกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้หรือเปล่า เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Radiesse แบบเจาะลึก ใครที่กำลังสนใจ บอกเลยห้ามพลาด!
Radiesse คืออะไร ?
Radiesse (เรเดียสซ์) ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของการฉีดกระตุ้นผิวที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ เพราะมีความพิเศษกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่ไม่ได้มีตัว ไฮยาลูรอน เป็นส่วนประกอบหลัก แต่ใช้ CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) เป็นส่วนประกอบสำคัญแทน ซึ่งเป็นสารที่คิดค้น และวิจัยโดย Merz Aesthetics ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก
จุดเด่นหลัก ๆ ของ Radiesse คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างใหม่ของคอลลาเจน ฟื้นฟู เติมเต็มร่องลึก และลดเลือนริ้วรอยได้ในการฉีดครั้งเดียว พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นฟิลเลอร์ขั้นสูงที่ใช้เติมเต็มร่องลึก และ ริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้งนั่นเอง
Radiesse เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือมีผิวแก่ก่อนวัย
- มีปัญหาผิวเหี่ยว ริ้วรอย มีร่องลึกที่ต้องการเติมเต็ม เช่น ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม
- ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ต้องการแก้ปัญหาความเหี่ยวย่นบริเวณ หลังมือ คอ หรือเนินอก
- ต้องการแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน มีรูขุมขนกว้าง ผิวหน้าขรุขระ
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ในการรักษาที่รวดเร็ว ต้องการแก้ไขปัญหาระยะยาว
Radiesse ราคาเท่าไหร่ ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ราคามาตรฐานของ Radiesse จะอยู่ที่ประมาณ 36,000 บาท ในปริมาณ 1.5 ซีซี ต่อหลอด ขณะที่ฟิลเลอร์ทั่วไปจะได้เพียง 1 ซีซี เท่านั้น ซึ่งถือว่าคุ้มค่า และราคาเข้าถึงได้ สามารถฉีดได้หลายจุดหลายตำแหน่ง ส่วนปริมาณที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้เพียง 1 หลอดต่อ 1 ตำแหน่ง
Radiesse สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Radiesse สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใบหน้า ร่องแก้ม ร่องนํ้าหมาก เป็นต้น โดยปริมาณที่ใช้ในแต่ละบริเวณอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของตัวบุคคล เป้าหมายในการแก้ไข ความหนาแน่นของผิวหนัง และบริเวณที่จะฉีด ดังนั้นการใช้ Radiesse ปริมาณที่แน่นอน จะต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง ซึ่งหลัก ๆ การฉีด Radiesse สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ดังนี้
- ร่องแก้ม อายุมากขึ้น ยิ่งเกิดร่องแก้มได้ชัด สามารถฉีด Radiesse เติมคอลลาเจนเพื่อทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ และร่องแก้มตื้นขึ้นได้
- ขมับตอบ การฉีด Radiesse กระตุ้นคอลลาเจน สามารถแก้ไขปัญหาขมับตอบ และทำให้โครงหน้าชัดเจน ทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย
- กรอบหน้า คนที่กรอบหน้าไม่คมชัด การฉีด Radiesse สามารถทำให้กรอบหน้าดูชัดเจน และผิวบริเวณนั้นดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
- หลังมือ เส้นเลือดหลังมือจะเห็นชัดขึ้นเมื่ออายุมาก การฉีด Radiesse เข้าไปจะช่วยลดริ้วรอยส่วนนี้ได้
- เนินอก เป็นบริเวณที่สามารถฉีด Radiesse กระตุ้นคอลลาเจนได้ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นเนินอกจะดูย่นและไม่เต่งตึง
- ร่องน้ำหมาก เป็นบริเวณมุมปากที่จะมีร่องรอยของความหย่อนคล้อยเมื่อมีอายุมากขึ้น สามารถเติมคอลลาเจนด้วยการฉีด Radiesse เพื่อลดริ้วรอยบริเวณนี้ได้
ทั้งนี้ การฉีด Radiesse เติมคอลลาเจนให้ผิวหน้า ไม่ควรฉีดในจุดที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง
เปรียบเทียบงานผิว Radiesse vs Sculptra ต่างกันยังไง
Radiesse กับ Sculptra ถือเป็นงานผิวพรีเมียมทั้งคู่ อยากรู้ข้อแตกต่างต้องเทียบกันหมัดต่อหมัด เพราะจริง ๆ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่เราต้องการจะแก้ไขว่ามีเป้าหมายอย่างไร อยากแก้ปัญหาที่จุดไหน ซึ่งเราเปรียบเทียบความแตกต่างของหัตถการทั้ง 2 อย่างมาให้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
- Radiesse เป็นหัตถการที่ให้วอลลุ่ม และการยกกระชับทันที โดยจะเข้าไปฟื้นฟูการทำงานของโครงสร้างผิวโดยตรงเพื่อให้ผิวแน่น ผิวเฟิร์มกระชับ ดูอิ่มฟู หน้าเนียนใสอมชมพูเหมือนได้ย้อนอายุผิวกลับไปอ่อนเยาว์อีกครั้ง หลังฉีดสังเกตเห็นผลได้ทันที
- Sculptra ก็เป็นหัตถการเพื่อให้หน้าดูเด็กเช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่เข้าไปสร้างคอลลาเจนผ่านระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผิวแน่นยืดหยุ่น และคุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้น หลังฉีดใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล
ควรเตรียมตัวอย่างไร ก่อนฉีด Radiesse ?
- แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- งดยากลุ่มต้านการอักเสบ
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วัน
- งดสครับผิว และครีมบำรุงที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse
- งดการดื่มแอลกอฮอล์
- น้ำสะอาดให้เพียงพอ จะช่วยให้ผิวมีอิ่มฟูยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกาย หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนความร้อนโดยตรง
- ไม่ควรจับหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของยา
- ไม่ควรแต่งหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- หากผิวมีอาการแดงบวม แนะนำประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการช้ำ