ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ After filler injection

รู้ลึกรู้จริง วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง

เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การหาข้อมูลเกี่ยวกับ วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และก่อนฉีดฟิลเลอร์ ที่ครอบคลุม ย่อมส่งผลให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของฟิลเลอร์ต่าง ๆ ยี่ห้อที่เหมาะสม รวมไปถึงขั้นตอนการฉีดแล้ว อีกหนึ่งข้อมูลที่เราควรรู้ประกอบกันไปด้วย คือ วิธีดูแลตัวเองก่อน และหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะถ้าเราเตรียมตัวมาไม่ดี หรือมีวิธีการดูแลรักษาหลังฉีดที่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร รวมไปถึงอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้อีกด้วย วันนี้ Napassaree Clinic จึงอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ทั้งก่อน และหลังฉีดฟิลเลอร์กันว่ามีอะไรควรทำ และไม่ควรทำบ้าง

เตรียมตัวให้ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย มีรายละเอียดดังนี้

  • ตรวจสอบรายละเอียดฟิลเลอร์ที่จะฉีด ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง เราควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่เราจะฉีดโดยละเอียด ทั้งยี่ห้อ รุ่นที่ใช้ เลขทะเบียน อย. ที่กล่อง เลขล็อต รวมไปถึงเอกสารกำกับภาษาไทย เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
  • งดยาหรือวิตามินบางตัว ควรงดยาแอสไพรินในกลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac และ Ponstan รวมไปถึงวิตามินบางตัว อาทิ Vitamin E, St. Johns Wort, Fish Oil, Primrose Oil, Garlic, Ginkgo Biloba และ Ginseng ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะยา และวิตามินเหล่านี้มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า เสี่ยงต่อการช้ำหลังฉีดได้ แนะนำว่าใครที่กินยา หรือวิตามินเหล่านี้เป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง

งดสกินแคร์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว ถ้าสกินแคร์ที่ใช้อยู่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่าง BHA AHA หรือ Retinoids Glycolic Acid ควรงดการใช้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3 วัน เพราะอาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคืองง่ายขึ้นได้

ใครบ้างที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามจุดต่าง ๆ อาทิ ใต้ตา แก้ม และหน้าผาก
  • ผู้ที่อยากลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยตามจุดต่าง ๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ร่องน้ำตาลึก
  • ผู้ที่อยากให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มฟู
  • ผู้ที่มีปัญหารอยสิว หลุมสิว และมีรูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการให้หน้าเข้ารูป เป็นทรง มีสัดส่วนสมดุล
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากไม่เท่ากัน ไม่ได้รูป หรือริมฝีปากบาง
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ด้วยการเติมฟิลเลอร์ตามส่วนต่าง ๆ อาทิ จมูก คาง และหน้าผาก

ข้อควรระวังที่ “ควรรู้” ก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • ภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ ความถูกต้องของการฉีด รวมไปถึงความแม่นยำของแพทย์ แต่ส่วนใหญ่ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรง และจะหายไปหลังจากผ่านไป 2-3 วัน
  • หากเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตุ่ม ก้อน มีหนอง หรือน้ำเหลืองไหลซึม ปวด บวมแดง ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
  • เลือกคลินิก และสถานพยาบาลที่จะฉีดฟิลเลอร์ที่มีใบอนุญาตทุกครั้ง และควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่จบเฉพาะทางด้านความงาม และผิวหนังด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
  • ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่จะฉีดทุกครั้ง เพื่อให้เรามั่นใจว่าฟิลเลอร์นั้นเป็นฟิลเลอร์แท้ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม หากเราปล่อยให้ฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกาย อาจเกิดอันตรายต่อตัวเราจนทำให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
  • ดูรีวิวประกอบการตัดสินใจทุกครั้ง ควรเป็นรีวิวที่น่าเชื่อถือ และมาจากแหล่งอื่นนอกเหนือไปจากรีวิวบนเว็บไซต์ของคลินิกเองด้วย ไม่ควรเลือกคลินิกที่โฆษณาเกินจริง หรือมีโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก เพราะอาจเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอมได้นั่นเอง

ข้อปฏิบัติ และ วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • กินยาแก้ปวด หากมีอาการปวดระบมบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือกดทับบริเวณที่ฉีด รวมไปถึงห้ามนวด คลึง หรือปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูป หรือเคลื่อนที่ได้ ควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ หากพบว่าฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน บวม หรือมีรูปทรงไม่ถูกใจ ควรมาพบแพทย์จะดีที่สุด
  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดได้หากมีอาการบวม แต่ควรใช้ผ้าสะอาดห่อไว้ก่อนประคบ เพื่อป้องกันเชื้อโรค และไม่ควรประคบแรง
  • ล้างหน้าเบา ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว 3 ชั่วโมง สามารถดูแลตัวเองได้ตามปกติ แต่ในการล้างหน้า หรือทาสกินแคร์ ควรทำด้วยความเบามือ ไม่ควรใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้แผลหายช้า
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยวันละ 1.5-2 ลิตร เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญให้ฟิลเลอร์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเรื่องการฉีดฟิลเลอร์

    • ฟิลเลอร์จะเข้าที่ในกี่วัน

    ตอบ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นที่ฉีด แต่โดยส่วนใหญ่ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่หลังจากผ่านไปประมาณ 7-14 วัน ในช่วงวันแรก ๆ อาจมีอาการบวมบ้าง แต่อาการเหล่านั้นจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน

    • ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม

    ตอบ ปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์ประกอบด้วยสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูง แนะนำให้คนไข้เลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิดร่วมด้วย จะช่วยให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

    • หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่นานแค่ไหน

    ตอบ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ตำแหน่งที่ฉีด และวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่โดยส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน

อ้างอิง

สาขา จามจุรีสแควร์

ชั้น 3 ตึกจามจุรีสแควร์ ข้างร้านกาแฟมวลชน
(ลง MRT สามย่าน , จอดรถในตึกฟรี 2 ชม.)

Phone

สาขา อ่อนนุช

ใต้คอนโดไอดิโอ โมบิ สุขุมวิท ตึกบี ติดร้านทำผม
(ลง BTS อ่อนนุช ทางออก 3, จอดรถหน้าร้าน)

Phone

Open everyday

11:00 – 20:00

ปรึกษาฟรี ทักไลน์ไอดี