ไหมมีทั้งหมดกี่ชนิด

– ไหมมิ้นท์ มีเงี่ยงขนาดใหญ่พิเศษ เป็นไหมที่หล่อขึ้นมาแบบ 3 มิติสามารถเกาะกับชั้นผิวได้แน่น ยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นตัวลือกที่ดีสำหรับคนที่มีปัญหาความหยอ่นคล้อยของผิวค่อนข้างเยอะ และยังเป็นไหมที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังในหลายประเทศทั่วโลก

– ไหมก้างปลาแบบเข็มแหลม เงี่ยงไหมขนาดเล็กเรียงตัวรอบเส้นไหม สามารถยกกระชับผิวได้ มีปลายเข็มแหลมอาจเกิดอาการบวมช้ำได้มากกว่าไหมชนิดอื่น แต่ในเคสที่มีพังผืดบนใบหน้าเยอะจน ไหมปลายทู่ผ่านผิวได้ยาก ไหมตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวนึง

– ไหมอัลตร้าวี มีเส้นไหมขนาดใหญ่ มีเงี่ยงไหมกางออกจากเส้นไหมรอบทิศทาง 360 องศา สามารถยกกระชับผิวได้ดี อยู่ได้นาน เหมาะสำหรับคนที่มีความหย่อนคล้อยมาก ปลายเข็มทู่ช่วยลดอาการบวมช้ำได้อย่างดี เป็นที่นิยมมากในประเทศเกาหลีใต้

– ไหมอิตาลี มีเส้นไหมขนาดใหญ่ ไหมหล่อขึ้นแบบ 3 มิติ วัสดุสลายช้า อยู่ได้นาน แรงยกปานกลาง มีความเป็นธรรมชาติสูง

– ไหมโครงตาข่าย ไหมด้านในเป็นเส้นไหมขนาดใหญ่ เงี่ยงแบบหล่อรอบทิศทาง และ คลุมด้วยตาข่ายด้านนอกเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการยึดเกาะกับผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้รับการรับรองจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

– ไหมคอลลาเจน มีลักษณะไหมเรียบ ไม่มีเงี่ยง ซึ่งช่วยให้ผิวดูมีน้ำมีนวล ลดเลือนริ้วรอย ผิวดูสุขภาพดี มักใช้ร้อยควบคู่กับไหมมีเงี่ยงเพื่อช่วยในเรื่องของการยกกระชับพร้อมกับผิวที่อิ่มฟู เต่งตึงมากยิ่งขึ้น

– ไหมสปริงคอยล์ มีลักษณะเป็นขดเหมือนสปริง เส้นไหมเรียบ ไม่มีเงี่ยง ใช้เพื่อเพิ่ม volume เติมเต็มร่องผิวบริเวณนั้นๆ เช่น เติมร่องแก้ม เติมร่องใต้ตา

– ไหมโมลด์ ไหมขนาดใหญ่พิเศษ เป็นไหมหล่อทั้งเส้นแบบ 3 มิติ ลักษณะเหมือนสกรู เป็นร่องลึกตามเส้นไหม เน้นลดขนาดแก้ม เก็บแก้มย้อยแก้มป่องได้ดี ยกกระชับได้ปานกลาง

– ไหมน้ำ เป็นสารประกอบเดียวกับไหมแบบเส้น แต่มีลักษณะเป็นผง เช่น PDO powder , PCL powder ใช้ผสมกับน้ำเกลือฉีดพรมทั่วหน้าเพื่อกระตุ้นผิวชั้น Dermis ให้ผลิตคอลลาเจนมากกขึ้น เน้นกระชับผิวด้านบนให้ผิวดูแน่นเป็นหลัก ไม่ช่วยยกกรอบหน้า